ภูเขาหญ้า
ภูเขาหญ้า หรือเขาหัวล้านหรือเขาผีนี้เป็นเนินเขาที่ไม่สูงมากนัก ถือได้ว่าเป็น Unseen Thailand อีกหนึ่งแห่งของเมืองไทย ที่ได้ชื่อว่าเขาหัวล้านหรือเขาผีสืบเนื่องมาจากเป็นภูเขาที่ไม่มีไม้ใหญ่ขึ้น แต่ในฤดูฝนก็จะมีหญ้าสีเขียวขึ้นปกคลุมแนวเขา ซึ่งทอดตัวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ บางครั้งจึงเรียกว่า ภูเขาหญ้า
ตรงส่วนที่ราบเชิงเขาจะมีทางเดินเท้าสำหรับนักท่องเที่ยวขึ้นสู่บนสันเขาเพื่อชมทิวทัศน์โดยรอบ ภูเขาหญ้าถือเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และชมความมหัศจรรย์ยามเย็น โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ภูเขาทั้งลูกจะกลายเป็นสีทอง ภูเขาหญ้าสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยภูเขาหญ้าสีเขียวพบได้ในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม ส่วนภูเขาหญ้าสีทองพบได้ในฤดูแล้งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน
บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน
เป็นหนึ่งในที่เที่ยวตามคำขวัญจังหวัดระนอง และสัญลักษณ์ของเมืองระนอง ที่นักท่องเที่ยวมาเยือนระนองต้องห้ามพลาด บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน เป็นบ่อร้อนใจกลางเมืองที่มีนักท่องเที่ยวและชาวระนองอุ้มลูกจูงหลานมาแช่น้ำร้อนกันอย่างมีความสุข
เมื่อปี พ.ศ.2433 พระบาทสมเด็จพระเจ้าจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เสด็จประพาสเมืองระนอง ได้พระราชทานชื่อถนนที่จะไปยังบ่อน้ำร้อนว่า “ถนนชลระอุ” เป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมีอยู่ 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก ทั้ง 3 บ่อมีอุณหภูมิสูงประมาณ 65 องศาเซลเซียส สามารถใช้ดื่มและอาบได้ มีประโยชน์ต่อร่างกายในแง่การบำบัดรักษาสุขภาพ โดยหากแช่น้ำจะช่วยทำให้โลหิตในร่างกายหมุนเวียนได้ทั่วถึง บำรุงผิวพรรณให้สดใส เต่งตึงและสามารถบรรเทาอาการปวดเมื่อย บำบัดโรคไขข้อและกระดูก
นอกจากนี้ยังถือเป็นน้ำบริสุทธิ์ จึงเป็นแหล่งหนึ่งที่นำไปผ่านพิธีพุทธาภิเษก ทำน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อใช้เป็นน้ำพระพุทธมนต์ในคราวพระราชพิธีฉลองพระชนมพรรษา ครบ 5 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บริเวณใกล้ ๆ บ่อน้ำร้อนได้จัดเป็นสวนสาธารณะรักษะวาริน มีศาลาที่พักและห้องอาบน้ำร้อนไว้บริการด้วย
หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยๆ ที่ผู้มาเยือนเมืองระนองต้องแวะชม น้ำตกหงาว เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากสันเขาสูงชัน ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว นักท่องเที่ยวที่เดินทางสู่ตัวเมืองระนองจะมองเห็นสายน้ำสีขาวของน้ำตกหงาวที่ไหลตกลงมาได้จากระยะไกล บริเวณน้ำตกมีแอ่งน้ำให้นักท่องเที่ยวลงเล่นได้ โดยมีน้ำมากที่สุด คือ ช่วงเดือนมิถุนายน และยังมีสัตว์ที่น่าสนใจที่พบบริเวณน้ำตกหงาวได้แก่ ปูเจ้าฟ้า และ เอื้องเงินหลวง กล้วยไม้ป่าที่มีความสวยงามมาก หรือหากใครสนใจมาพักผ่อน อุทยานฯ ก็มีบ้านพักให้บริการถึง 7 หลังด้วยกัน นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว
น้ำตกปุญญบาล
น้ำตกปุญญบาล ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี เป็นน้ำตกขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ แลมีน้ำไหลแรงตลอดปี น้ำตกมีทั้งหมด 3 ชั้น มีต้นน้ำมาจากลำห้วยเล็ก ๆ ในเขตป่าละอุ่น ป่าราชกูด ชั้นที่ 1ปุญญบาล เป็นชั้นที่สวยที่สุด ลักษณะเป็นสายน้ำไหลตกลงมาตามเชิงชั้นสูงประมาณ 20 เมตร รอบ ๆ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำตื้น ๆ น้ำตกชั้นที่ 2 เรียกว่าน้ำตกโตนไม้ไผ่ และน้ำตกชั้นที่ 3 เรียกว่าน้ำตกโตนต้นเฟิน
จากชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 3 มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 300 เมตร นักท่องเที่ยวเดินได้สบายไม่ลำบาก บริเวณต้นน้ำมีต้นพญาไม้ หรือขุนไม้ขนาดโตวัดรอบที่ระดับความสูงเพียงอก ผู้ที่สนใจจะมีเจ้าหน้าที่บรรยายและให้ความรู้เกี่ยวกับสภาพ พื้นที่และพรรณไม้ด้วย ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินศึกษาแหล่งต้นน้ำ และระบบนิเวศน์ป่าดิบชื้น จากน้ำตกปุญญาบาลเลยขึ้นไปทางเหนือยังมีจุดชมวิวเขาฝาชี มองเห็นคุ้งอ่าวป่าชายเลน และฝั่งวิคตอเรียพ้อยท์ในประเทศพม่าด้วย
ศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาว
ศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาวหรือที่เรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ศูนย์วิจัยป่าชายเลนจังหวัดระนอง”เป็นพื้นที่ป่าชายเลนหงาว มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 189,431 ไร่ ยังมีพันธุ์ไม้หายากมากกว่า 20 ชนิด เช่น โกงกาง อายุมากกว่า 200 ปี ต้นเดียวในประเทศไทย ต้นตะปูนดำยักษ์อายุมากกว่า 300 ปีเป็นแหล่งเกิดและเติบโตของสัตว์ทะเลนานาชนิด มีสัตว์ป่าชายเลนที่หาดูยาก เช่น ปูก้ามกามหลากสี แม่หอบ ฝูงลิงแสม และนาก อีกทั้งเป็นแหล่งดูนกอันดับต้นของประเทศ มีนกประจำถิ่นที่หาดูยากหลายชนิด เช่น นกกะเต็นแดง นกกะเต็นใหญ่ปีกสีน้ำตาล และ นกแต้วแล้ว
ป่าชายเลนหงาวได้รับยกย่องให้เป็นป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทยและของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค จนองค์การ UNESCO ประกาศให้พื้นที่ป่าชายเลนของศูนย์วิจัยฯ และพื้นที่ป่าชายบางส่วนของจังหวัดระนอง เป็น “พื้นที่สงวนชีวมณฑล” เมื่อปีพ.ศ. 2540
นอกจากนี้ที่ศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาว ยังได้จัดเจ้าหน้าที่ไว้นำนักท่องเที่ยวชมธรรมชาติ ทั้งพรรณไม้ป่าและสัตว์ป่า มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนราว 2 กิโลเมตร
หอพระเก้าเกจิ
ใกล้ๆ กับ พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) เป็นที่ตั้งของหอพระเก้าเกจิ สิ่งศักด์สิทธิ์ที่ชาวระนองนิยมเดินทางมากราบไว้ หอพระเก้าเกจิ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 ใน ปีเฉลิมฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี โดยเป็นหอที่ประดิษฐานรูปเหมือนของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคใต้ ได้แก่ หลวงพ่อจันทร์ หลวงพ่อนุ้ย หลวงพ่อรื่น หลวงปู่ทวด หลวงพ่อเบี้ยว หลวงพ่อติ๋ว หลวงพ่อลอย หลวงพ่อน้อย และหลวงพ่อบรรณ
พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง)
พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) เป็นพระราชวังที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์การเสด็จประทับแรมจังหวัดระนองของ พระมหากษัตริย์ 3 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดระนอง
พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขารัตนรังสรรค์ เป็นพระราชวังที่ทำด้วยไม้สักและไม้ตะเคียนทอง สิ่งที่จัดแสดงภายในพระราชวัง ได้แก่ ห้องบรรทมพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ชั้น 3)ห้องพระราชินี (ชั้น 2) มีจำนวน 6ห้อง อาคารทรงแปดเหลี่ยม อาคารท้องพระโรง สะพานเชื่อมอาคารที่ประทับกับอาคารแปดเหลี่ยม