หน้าหลัก > HANG ชวนเที่ยว รวมทริปเที่ยวทะเล > [HANGชวนเที่ยว : EP50] เมื่อร่างกายต้องการทะเล “สิมิลัน” น้ำใสๆกับใจเหงาๆ BY SANDYHAPPY [PART II]
[HANGชวนเที่ยว : EP50] เมื่อร่างกายต้องการทะเล “สิมิลัน” น้ำใสๆกับใจเหงาๆ BY SANDYHAPPY [PART II]
ต่อจากเดิม PART I นะครับไปตามอ่านกันได้ คลิ๊กลิ้งด้านล่างเลย !!!
เมื่อร่างกายต้องการทะเล “สิมิลัน” น้ำใสๆกับใจเหงาๆ BY SANDYHAPPY
_____________________________________________________________________________________________
ไปดำน้ำเข้าวันใหม่ เวลานัดหมายคือ 8โมงเช้าค่ะ ขึ้นเรือเล็กกันอย่างทุลักทุเลเล็กน้อย ถ้าขึ้นลงบ่อยๆ คุณจะมีสกิลไปเอง ไม่ใช่ง่ายๆด้วย เพราะคลื่นแรงที่ซัดเข้ามาตลอดเวลา ต้องดูคลื่น หาจังหวะขึ้นเรือและรักษาบาล้านของเรือ จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะว่ายากก็ยาก ต้องฟังไกด์แนะนำอย่างตั้งใจค่ะ การตกน้ำ หรือ เรือคว่ำ ไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้ของไกด์ทุกคนค่ะ เค้าอยากให้เราปลอดภัย และแฮปปี้ทุกคน มีความทรงจำที่ดีๆกลับไป ดังนั้นเค้าพูดอะไรก็ควรจะฟังและทำตามค่ะ
กินอาหารเข้าเอาแรงกันบนเรือค่ะ เมื่อพร้อมแล้วก็ออกเรือไปจุดดำน้ำต่อไป
เก๊กท่าถ่ายรูปกับตีนตบ หรือ Fin และหน้ากากดำน้ำ ปกติที่เคยไปดำน้ำ เค้าจะให้แค่หน้าการดำน้ำค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ใส่ Fin เจ้าหน้าที่แนะนำว่าถ้าไม่เคยใส่มาก่อน จะเป็นตระคริวได้ เราคิดว่า คนเราต้องมีครังแรกค่ะ ตะคริวไม่ใช่มะเร็งสักหน่อย เป็นได้ก็หายได้ การเรียนรู้และลองสิ่งใหม่ๆสิน่าสนุก ซึ่งคิดไม่ผิดจริงๆที่เอามาด้วย มันทำให้เราว่ายได้เร็วและแรง ไปดูตรงนั้นตรงนี้และต่อสู้กับกระแสน้ำที่แรงๆเวลาฝนตกได้สบายๆ

ปลาเยอะมากๆ แต่ไม่สามารถถ่ายรูปใต้น้ำมาให้ดูได้ค่ะ ไม่มีกล้องถ่ายใต้น้ำ ที่จริงเราไม่ได้คิดด้วยว่ามันจะสวยมากขนาดนี้ นึกแล้วก็เสียดาย
เราเป็นคนที่ชอบน้ำ ชอบทะเล ชอบแม่น้ำ ชอบฤดูฝน ชอบเวลาฝนตก (ยกเว้นตอนซ้อนมอไซกลับบ้าน) เวลาไปเที่ยว จะชอบลงใต้มากกว่าขึ้นเหนือ
ไปดำน้ำ snokeling มาก็หลายที่แล้ว ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน (หลีเป๊ะ ตรัง กระบี่ สุราษ ประจวบ ชุมพร ชลบุรี นับเป็นจังหวัดดีกว่า ถ้านับเป็นเกาะ จะจำชื่อเกาะไม่ได้)
สิมิลัน จ.พังงา ทะเลสวยที่สุด ปะการัง และ สัตว์ ต่างๆตามธรรมชาติ สมบูรณ์ ที่สุด ประทับใจที่สุด อยากให้เวลา 40นาที ที่เข้าให้ในแต่ละจุดนั้น เป็นสัก 3ชั่วโมง
สิมิลันทั้ง 9เกาะนั้น เราจำไม่ได้จริงๆ ว่าจุดที่สวยคือเกาะไหน ตรงไหน เพราะ 3วัน2คืน ที่ไปนั่น ดำน้ำทั้งวันจริงๆ จนจำไม่ได้ว่าไปไหนมาบ้าง
เสื้อผ้าที่เอาไป เหลือชุดเดียวที่แห้ง คือชุดที่ใส่กลับกรุงเทพ นอกนั่นเปียกทุกชุด
ฝนตกทุกวัน การดำน้ำทั้งๆที่ฝนตก กระแสน้ำจะแรงมาก ตีขาจนเหนื่อย บางทีก็ปล่อยตัวให้ลอยไป มีแรงก็ตีขากลับมาใหม่ มองดูปลาข้างล่าง พวกนางก็ว่ายสู้กับกระแสน้ำเหมือนกัน เพราะทุกตัวหันหัวว่ายทวนน้ำไปทางเดียวกันหมด รวมทั้งเราด้วย (ด๊อกแด๊กๆ พร้อมกันหมด น่ารักดี)
เมฆจะขาวและลอยต่ำยังไง แต่น้ำก็ยังใสค่ะ



แห้งๆ เปียกๆ ตากแดดและขึ้นมาจิบกาแฟอุ่นๆ
รอบบ่ายเรากลับเข้าฝั่งมาค่ะ กลับมาที่เกาะสี่ เพื่อที่จะขึ้นไปดูจุดชมวิวมุมสูงบนเขา ที่จะเห็นวิวทะเลของเกาะ4และเกาะเล็กๆน้อยใหญ่รอบๆ ยิ่งเห็นอากาศช่วงบ่ายฝนยังไม่ตก ยิ่งดีสำหรับการปีนเขาค่ะ
ทางเดินไปขึ้นเขาคือทางเดินเดียวบนเกาะที่เดินทะลุระหว่างหาดน้อยและหาดใหญ่ได้ นักท่องเที่ยวเดินกันตลอดค่ะ ไม่มีเหงา
ปีนขึ้นมาด้วยความลำบาก เพราะทางชุ่มไปด้วยน้ำ ทำให้ดินลื่นมาก ล้มก้นจ้ำเบ้าก็หลายที ดีที่ยังมีเชือกให้เราเกาะตลอดทาง ไต่ไปเรื่อยๆค่ะ รองเท้าแตะสำหรับมาทะเล กับการปีนเขา มันเข้ากันไม่ได้เลยค่ะ แต่ก็ต้องลุยต่อไป วิวสวยๆคือจุดหมาย
สวยมากค่ะ คุ้มค่า ที่เสี่ยงต่อการก้นกระแทก เพื่อปีนขึ้นมาถึงจุดนี้
แล้วก็กลับลงมาค่ะ ขาลงนั้นอันตรายกว่าขาขึ้นมาก ต้องระวังมากกว่า เพราะพื้นจะลื่นเหมือนรองเท้าติดล้อสเก็ต เกร็งทั้งแขนที่จับเชือกและเกร็งทั้งขาที่ก้าวเดิน ลื่นมั่งไถลมั่ง ถึงด้านล่างเร็วเชียวค่ะ (มิน่าขาขึ้นเห็นรอยรองเท้าเป็นทางเลย มีคนลงแล้วลื่นลงมาเหมือนเรานี่แหละ)
ด้านที่ไกลทางขึ้นเขาคือหาดน้อยค่ะ เป็นชายหาดอีกด้านของเกาะ4
คลื่นแรงมาก และเป็นคลื่นดูดค่ะ ดูดเอาคนและทุกสิ่งทุกอย่างลงทะเล เวลาขึ้นและลงเรือจึงลำบากขึ้นไปอีกหลายเท่า ต้องดูหัวคลื่นให้ดี ต้องเร็ว และ เร็ว และ เร็ว เท่านั้นค่ะ ไม่มีอย่างอื่น
ส่วนเราก็ถ่ายรูปชิลๆกันไป
เดินกลับมาเดินเล่นที่หาดใหญ่หน้าเกาะ ถ่ายรูปเล่นกันต่อค่ะ




จบวันนี้ด้วยความฟิน และทางไกด์นัดเรากินข้าวตอน 6โมงเย็นค่ะ สำหรับคนที่ไม่ได้กินข้าวเย็นบนเรือ (เพราะช่วงครึ่งวันบ่ายเรากลับฝั่งมาปีนเขาค่ะ)