สวัสดีค่ะ นินนินและแม่มด เราสองสาวชะนีภูธรมีทริปไปดูงานที่ญี่ปุ่นมาเมาท์ให้ฟัง ถือว่ารีวิวนี้เป็นบันทึกการเดินทางของเราแล้วกันนะคะ
อาจไม่เฟี้ยวฟ้าวมากเพราะเป็นการไปดูงาน
แต่ขอมาถ่ายทอดเรื่องราวกับความรู้สึกครั้งแรกของชะนีที่ได้ไปญี่ปุ่น
ประเทศในฝันของเด็กที่โตมากับเซเลอร์มูน โดเรมอน โปเกมอน ดิจิมอน โคนัน จูเรนเจอร์ อุลตราแมน พะ พะ พอแล้ว!!! เราไปทำอะไร ไปเจออะไรมาบ้าง
อะไรคือ เที่ยว เสียว เปรี้ยว !?
มาค่ะ คัมมอน คัมมอน ตามดากชะนีมา !!
แพลนการเดินทางของเราคือ
19 aug 2016 : เดินทาง Bangkok = > Nagoya 20 aug 2016 : ถึง Nagoya 21 aug 2016 : Nagoya = > Shizuoka อำเภอ Fujieda
22 aug 2016 : Fujieda = > Bangkok
เดี๋ยวขอเวลาโปรยทีเซอร์ก่อนหนังเริ่มหน่อยนะ
– แหล่งช๊อปนาโกย่าพาเพลินเดินหลงไปเสียวในดินแดน 18+ – ฟูจิเอดะมีอะไร ไปทำอะไรที่นั่น !!? – ชะนีบ้านนอกกับการหลงที่ญี่ปุ่น ไม่มีไวไฟใช้ และ เพื่อนมนุษย์ที่ไม่พูดภาษาอังกฤษ
– เยี่ยมชมโรงงานผลิตครีม KOKO , DHC + พิภิธภัณฑ์ Shiseido
ปล. – ในส่วนของที่พักค่าตั๋วและอาหารบางมื้อไม่ทราบราคาเพราะมีสปอนเซอร์ของทริปไปดูงานออกให้ค่ะ
– แต่บางอย่างที่เราจ่ายเองก็จะมี ราคาแจ้งไว้ให้นะคะ
เริ่มเมาท์กันเลยดีกว่า !!!!!!!
NOGOYA DAY 1 Friday 20 Aug 2016
Time: 08:00
“ โอะ ฮาโย โก ทู มาย รูม ” (เดี๋ยวนะ คำทักทายทักกันแบบนี้มั้ย)
อรุณสวัสดิ์ !! ถึงนาโกย่าเช้าตรู่เดินลู่ๆเข้าสู่ ตม. สาวไทยไม่ต้องกังวล กรอกใบต่างๆให้เสร็จสรรพทำหน้าซื่อๆ
ไม่ชม้อยหน้าชม้อยตาให้มากความ ก็เดินผ่านไปได้ชิลล์ๆ
แล้วมาหยุดรอขึ้นรถบัสเข้าเมือง เราพักที่ Nagoya Tokyu Hotel เดินออกมานอกสนามบินก็รู้สึกพลังแห่งความอบอุ่นเลยค่ะ เดือนสิงหานี่อโลฮ่า > ซัมเมอร์ < ของที่นี่เด้อนางเด่อ ตึ้ง ตึ้ง !!
ร้อนจู๊กกูแร้เปียกกันไปเลอออ
รถมาแล้วเด้ออออ โชเฟอร์เดินลงมาทักทาย โนะๆเนะๆ ไม่พูดภาษาอังกฤษ ใครจะมานี่ไม่ต้องมาโชวสกิลแอคเซนส์บริทิชหรือเมกัน
ฉันก็ไม่พูดกับคุณค่ะ ฉันจะญี่ปุ่นรัวๆมาโลดดดดด !!
(รูปก่อนรถมา)
สองชะนีบ้านนอกเดินขึ้นรถบัส นั่งดากไม่ติดเบาะค่ะ ชะเง้อคอมองวิวระหว่างทางตลอดเวลา
หมายว่าจะมีผู้ชายรูปงามผุดมาแถวนั้นบ้าง
นั่งไปประมาณ 40 นาที ก็ถึงหน้าโรงแรมเลยค่ะ เดินสับขาลงมาสวยๆ ประหนึ่งชมพู่ลงจากรถลีมูซีนคันโตเข้างานหนังเมืองคานส์
แล้วก็ลากกระเป๋าเข้าโรงแรมได้เลย
ชะนีบ้านนอก แทบกรี๊ดกับโรงแรม มีความโอ่อ่า 5 ดาว ถ้าจ่ายเองคงไม่มีทางได้นอน เช็คราคาจาก Agoda คืนละประมาณ 8,000 บาท
ขุ่นพระ เอามือทาบอก คลานเข่าเข้าประตูไป
เบรคเข้าสู่ช่วงทัวร์โรงแรมคร่าวๆ
เผื่อใครสนใจอยากมาพักที่นี่
1.ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเดินทางสะดวกรถบัสสนามบินจอดหน้าโรงแรมเลย 2.ด้านหลังเป็นอควาเรียม 3.เดินมาหน้าโรงแรมเป็นร้านอาหารเรียงราย 4.ขวาเป็นร้านขายเครื่องสำอาง Drugstore ขนาดใหญ่ 5.ซ้ายมีสตาร์บัค คาราโอเกะ หมอนวดเซ็กซี่ Lawson Family mart 6.เดินเข้าซอยข้างๆเป็นถนนโลกีย์มีผับเรียงราย 7.เดินไปอีกหน่อยเจอ Mrt มีสวนพักผ่อนหย่อนหอยให้นั่งเล่นแถวนั้น
8.แล้วก็มีถนนหลักที่ซ้ายขวาเป็นห้างและร้านค้าแบรนด์ดังเรียงรายค่ะ
เอาเป็นว่าก้าวขาออกมาหน้าโรงแรมนี่กระเป๋าตังค์ก็เต้นรัวๆไม่กลัวฟ้าดิน หากใครสู้ราคาห้องพักคืนละขนาดนี้ไม่ไหว (ชะนีก็ไม่ไหวค่ะ อาศัยสปอนเซอร์ จัดให้ฟรีค่ะ) บริเวณรอบๆ โรงแรมนี้ยังมีโรงแรมเล็กๆ อีกประปรายค่ะ ถือว่าอยู่ในทำเลที่ดีมากๆ ราคาไม่น่าจะสูง
ลอง google ดูนะคะ
Time 11:00
“ ชมวิวชิลล์อาหารญี่ปุ่น ”
หลังจากเก็บกระเป๋าเรียบร้อยหอยพับเพียบ ยังเช็คอินไม่ได้ ต้องบ่ายสองเดสก๊ะ ! หาทางฆ่าเวลากันหน่อย
ออกไปเดินหาอะไรทานกันค่ะ
เมืองนาโกย่านี่สงบเสงี่ยมเรียบร้อยยังไงชอบกล คนไม่ค่อยพลุกพล่านขนาดสายแล้วในวันเสาร์ยังเงียบๆ
นี่ถ้าแอบตดออกมาป้าที่อยู่ชั้น 10 ยังได้ยินเลยค่ะ
นี่ในซอยแคบๆ ยังมีทางม้าลาย และถึงไม่มีรถ คนก็ยังใช้ทางม้าลายค่ะ
ถอนสายบัวให้ความเป็นระเบียบของคนญี่ปุ่น
เริ่มเข้าสู่ถนนสายช๊อปปิ้งที่เรียงรายไปด้วยห้างสรรพสินค้า และช๊อปแบรนด์ดัง ก็จะเริ่มเจอวัยรุ่นและคนเริ่มพลุกพล่าน แต่ก็ยังไม่วุ่นวายเหมือนแถวสยามพารากอนนะคะ ยังชิลล์ๆ ไม่เบียดเสียด มีเสปซให้เราได้หายใจบ้าง
แฟชั่นของผู้หญิงส่วนใหญ่จะชอบใส่เสื้อซ้อนกันแบบนี้ค่ะ
เราก็เดินหลงๆไปเข้าห้าง แล้วก็เดินสุ่มเลือกมาซักร้าน มื้อแรกที่นาโกย่า และหิวมาก กินอะไรก็ได้ ณ จุดนี้ และนี่คือร้านที่เราเลือกทาน เห็นวิวของตัวเมืองด้วย
ร้อนๆมาเจอแก้วนี้เข้าไปก็ชุ่มคอดีเหลือเกิน
ในส่วนของรสชาติ คล้ายคลึงกับฟูจิบ้านเรานั่นเอง
ละมุนดีค่ะ โออิชิเดส
กินคาวไม่กินหวานสันดารไพร่ค่ะ ตบปากปิดกระเพาะ
ด้วยไอศครีมชาเขียวกับโมจินี่เดอะเบสท์มากค่า
Time: 13:00
“ สิบหมื่น สิบหมื่น สิบหมื่น แหมยิ้มระรื่นคงกลืนลงคอ ”
เวลาฆ่าไม่หมดแต่หอยที่โดนหมกนี่จะไม่ไหวอยู่แล้ว อยากอาบน้ำแต่ยังเข้าห้องไม่ได้
ไม่เป็นไร สำรวจพื้นที่กันหน่อย
เส้นนี้เป็นเส้นช้อปปิ้งทั้งสายเลยจ้า
มีหมื่น หมดหมื่น มีแสนหมดแสน
โดยเฉพาะอาดิดาสนี่ถูกกว่าไทยนะคะ เราก็เดินเซ ขาอ่อน เป็นลมล้มพับกันตรงนี้ โดนกันไปคนละคู่ ในส่วนของ NMD ที่คนบ้าคลั่ง อยู่นี่ไม่ต้องต่อแถวค่ะ
เดินจิกปลายเท้าสลับกันเข้ามาหยิบจ่ายได้เลย
Time: 14:00
“ ใช้ไวไฟก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไป ก็ไปไม่ถึง ”
ก้มลงมองนาฬิกา ได้เวลาชะนีป่ากลับสู่ที่พักพิง
แล้วก็ต้องยืนหมุนรอบตัวเองไปสิบที นี่ฉันอยู่ตรงไหน ฮืออ แม่จ๋าาาาา
สุดท้าย… เราก็ถึงโรงแรม
โดยใช้เวลาหลงเดินอ้อมเมืองไปประมาณ 1 ชั่วโมง
ซีนนี้สอนให้รู้ว่า… บางทีเราเคยชินกับการพึ่งพามือถือมากเกินไป การกลับไปใช้วิธีเบสิคอย่างถามทาง
ทำให้เราได้รื้อฟื้นสกิลเดินทางไกลสมัยเรียนยุวะกาชาดขึ้นอีกครั้ง …
ทำให้เราได้พูดคุยกับคนในท้องถิ่นบ้างก็สนุกดี เป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ถ้าเราพึ่งแต่มือถือ
หน้าเราก็คงได้แต่มองแต่จอ
พลาดโอกาส… มองเห็นคนหล่อๆที่เราเข้าไปขอถามทางเค้า
นั่น !! เตะเข้าเรื่องผู้ชายจนได้แกร๊ !!
Time: 15:30
“ พักกายพักใจ หลับลงตรงนี้ที่ที่มีแต่ชะนีสองคน เฮ้อ !! ”
สุดท้ายก็ถึงที่หมาย
ความรู้สึกเหมือนเดินอ้อมเมืองนาโกย่าหนักมาก
เข้าที่พักรับแอร์เย็น อาบน้ำ
จากนั้นขอแวะ Lawson มินิมาร์ท หาอะไรรองท้องแป๊บ
Lawson ก็เหมือน 7-11 ค่ะ
เป็นร้านสะดวกซื้อที่เปิดบริการ 24 ชม.
แต่มีคอนเนอร์เล็กๆ ให้เรานั่งทานได้ด้วย
ปล. มาม่ารสนี้ น้ำซุปนัวมาก เครื่องแน่นมาก
แล้วก็รีบสับขาออกไปเดินเล่นกัน เหมือนช่วงนี้เค้ามีเทศกาลดอกไม้ไฟกัน
(แต่เราไม่เจอตอนเค้าจุดดอกไม้ไฟ)
ผู้คนต่างใส่ชุดยูกะตะ
แล้วก็มีซุ้มคล้ายๆงานวัดบ้านเรา
อ่ะ…สั่งโซบะมากินซักหน่อย ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 200 เยน 60 บาท ยืนรอโซบะอย่างไรให้คนหมั่นไส้
จิกหน้าไปค่ะ !
โออิชิ !! แซ่บบักคักเดสก๊ะ
แบ่งกันกินก็อิ่มค่ะ ได้เยอะมากกก
ขอจบตอนที่ 1 ไว้ตรงนี้ก่อนนะคะ ถ้าชอบใจช่วย LIKE+SHARED เดี๋ยวตอนที่ 2 ตามมาแน่คะ ขอบพระคุณคะ
STORY BY : BLACKLIST SRCRET
CREDIT : BLACKLIST SRCRET