แบกเป้เที่ยววังเวียงฉบับง่ายๆไม่ว่าใครก็ไปได้
ทริปนี้ใช้เวลา 3 คืน 4 วัน ( 5-8 มกราคม 2560) (จริงๆ แค่ 2 คืน 3 วัน ก็เที่ยวทั่ววังเวียงหมดแล้วล่ะ)
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนไป***พาสปอร์ตกับเงิน สำคัญมากกกห้ามลืม!***
(ที่วังเวียงรับทั้งเงินบาทและเงินกีบ แต่ร้านค้าเล็กๆรับเงินกีบนะจ้ะ ควรแลกเงินไปเผื่อด้วยนะเราคำนวณแล้วว่าแลกที่ด่านน่าจะได้เรทดีสุดไปแลกที่วังเวียงเรทก็จะต่ำลงเรื่อยๆ ที่รู้เพราะแลกเงินไปไม่พอเลยจำเป็นต้องแลกเพิ่มที่วังเวียง TT)
-การเดินทางไปวังเวียงต้องเดินทางรถโดยสารประจำทาง อุดรธานี-หนองคาย-วังเวียง ใช้เวลาเดินทาง 7 ชั่วโมงจ้า
***รถมีวันเที่ยวเท่านั้น!!! เริ่มขายตั๋ว 7.00 รถออก 8.30 น. ไปก่อนเวลาจะดีมากเพราะตั๋วเต็มทุกรอบ
***แต่ถ้าใครมาไม่ทันจริงๆ ก็มีอีกทางเลือกหนึ่งคือนั่งรถจากอุดรธานีไปลงเวียงจันทร์ แล้วต่อจากเวียงจันทร์ไปวังเวียงก็ได้จ้าค่ารถแพงกว่านิดหน่อยแต่ใช้เวลาเดินทางพอๆ กัน
-รถออกตรงเวลาเรทไม่เกิน 5 นาที พอขึ้นรถมาสักพักเจ้าหน้าที่บนรถก็เดินแจกเอกสารให้เรากรอกเพื่อใช้ยื่นที่ด่านไทยและด่านลาว
***เอกสารอันนี้สำคัญมากกกอย่าหายนะจ้ะ เอกสารที่แจกจะมีสองแผ่นเป็นของประเทศไทยหนึ่งแผ่น (ขาเข้า-ขาออก)
ประเทศลาวหนึ่งแผ่น (ขาเข้า-ขาออก) เค้าก็จะให้เรากรอกข้อมูลตามพาสปอร์ตนั่นแหละ
-พอรถมาถึงด่านไทยเพื่อจะข้ามไปลาว งานนี้แหละนักท่องเที่ยวต้องใช้ไหวพริบนะจ้ะสังเกตดูคนข้างๆ ว่าเค้าทำอะไรต่อแถวไหนก็เดินไปตามเค้า 555
เจ้าหน้าที่จะขอดูพาสปอร์ตเรา และจะฉีกเอกสารที่เป็นของประเทศไทยด้านขาออกไป เราก็จะเหลือแค่ขาเข้าประเทศไทยเอาไว้ใช้วันกลับจ้ะ
-ต่อมาพอรถมาถึงด่านลาว ก็ทำเหมือนเดิมจ้ะใช้ไหวพริบสังเกตดูคนข้างๆ ว่าเค้าทำอะไรต่อแถวไหนก็เดินไปตามเค้า 555
เจ้าหน้าที่จะขอดูพาสปอร์ตเรา และจะฉีกเอกสารที่เป็นของประเทศลาวด้านขาเข้าไป เราก็จะเหลือแค่ขาออกประเทศลาวเอาไว้ใช้วันกลับจ้ะ แต่!!!ไม่ใช่แค่ตรวจพาสปอร์ตแล้วจะไปได้เลยเหมือนบ้านเรานะ ตรงเสียตังค์ซื้อบัตร one way tickey เพื่อเข้าประเทศเค้าด้วยนะจ้ะ
(วัน จ-ศ เสียคนละ 1000 กีบประมาณ 5 บาท แต่ ส-อา เสียคนละ 11000 กีบ ประมาณ 50 บาท)
-พอทุกอย่างเรียบร้อยก็ขึ้นรถไปต่ออีกประมาณ 2 ชั่วโมง รถจะจอดพักให้เรากินข้าว/แลกเงิน/ซื้อซิม/ทำธุระส่วนตัวต่างๆ 30 นาที
-หลังจากนั้นก็เดินทางอีก 2 ชั่วโมงก็จะถึงวังเวียง (2 ชั่วโมงนี้แนะนำให้หลับค่ะ ไม่งั้นอาจจะเวียนหัวได้เพราะทางคดเคี้ยวทางแคบไม่มีไหล่ทาง อีกอย่างการจราจรที่นู่นไม่ค่อยมีกฎอะไรอยากขับยังไงก็ได้ TT)
-ในที่สุดก็ถึงวังเวียงประมาณ 3-4 โมงเย็น เราแนะนำให้ซื้อตั๋วกลับล่วงหน้าเลยนะเดี๋ยวตั๋วเต็ม
-ทริปนี้เราไม่ได้จองที่พักไว้กะเดินหาเอา เห็นเขาบอกว่าถูกกว่าจอง อิอิ -เราได้ที่พักราคาคืนละ 400 บาท 3 คืน เป็นห้องแอร์ ห้องน้ำในตัว โดยรวมโอเคเลย (จริงๆ คืนละ 500 แต่เราต่อเค้าได้ 
:3)
วันที่สอง
-ถึงบูลลากูนก็เสียค่าเข้าอีกคนละ 10000 กีบ ตอนไปถึงยังไม่มีคนเลยจ้า น้ำยังสีฟ้าใสอยู่เลยยย
-ข้ามสะพานเสียตังค์กลับมาอีกฝั่งเพื่อไป สะพานสีส้ม-ถ้ำจัง อารมณ์เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของวังเวียงอ่ะ ใครๆก็มาถ่ายรูปไอ้เราก็ตามเค้ามา ปรากฎว่าเฉยๆ ไม่ตื่นเต้นอะไรเลย ==’
-ออกมาจากสะพานสีส้ม-ถ้ำจัง ก็ขับรถเล่นดูวิวภูเขาสักพักก็ไปนั่งเล่นที่บาร์ห้อยขา ฟินมากกกกก วิวดีพระอาทิตย์กำลังจะตกดินลมเย็นสบาย นั่งเอาขาแช่น้ำ จิบอะไรเย็นๆ คือดีมากมายเลยจ้าาา!
วันที่สาม
-เรารีบตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปปีนผาเงิน ซึ่งก็ต้องเสียตังค์ข้ามสะพานไปอีกฝั่งคันละ 10000 กีบเช่นเคย
(*****ซึ่งเรามารู้วันสุดท้ายว่ามันมีสะพานที่ไม่ต้องเสียตังค์!!! ใครไปดูดีๆนะ)
-ถึงผาเงินเสียอีกคนละ 10000 กีบ เขาบอกว่าใช้เวลาประมาณ 20 นาทีถึง แต่เราไม่ได้ดูเวลาหรอกมัวแต่ก้มหน้าก้มตาปีน เพราะทางชันมากมีแต่หิน แล้วเดินไปก็ดันสะดุดล้มอีก ใครจะมาใส่รองเท้าที่ยึดเกาะดีๆมานะคะ TT พอขึ้นไปถึงคือวิวสวยมากกก แต่ก็ยังเหนื่อยอยู่ดี 555 ข้างบนมีร้านค้าร้านนึงอารมณ์แบบใครขึ้นไปก็ซื้อป้าแกก็ขายราคาโหดเลยจ้ะ ==’บนยอดค่อนข้างอันตรายนะมีแต่หินแหลมเต็มไปหมด หาที่ยึดเกาะดีๆ
-ลงมาจากผาเงินเราก็ขับรถดูวิวเรื่อยๆมาเจอป้ายเขียนว่าบูลลากูน 3 เกิดความสงสัยว่าบูลลากูนมันมีหลายที่หรอ? ลองไปดูดีกว่าเวลามีเหลือเฟือ ซึ่งทางไปโหดดดดดมากคือฝุ่นเยอะถนนนี่แทบไม่มีความเรียบ แต่พอถึงที่หมายไม่มีใครมาเลยแกร๊ เงียบมาก มีคนหาปลาอยู่คนนึง เลยลองเดินเข้าไปดูข้างในปรากฎว่า โคตรสวยยยยยกว่าบูลลากูนอันเมื่อวาน น้ำใสกว่ามากกกใหญ่กว่ามาก คือดีกว่า!!! เลยถามเขาว่าทำไมไม่มีคนมาเล่นเขาบอกว่ายังไม่เปิดจะเปิดประมาณเดือนมีนาคม ใครจะมาวังเวียงต้องมานะๆๆๆ
-กลับเข้ามาในเมืองหาอะไรกิน แล้วก็ไปเล่นน้ำในแม่น้ำซองจนเย็นเลย 555
-เวลาที่รอคอยมาถึงพรุ่งนี้จะกลับละขอไปซากุระบาร์สักหน่อยเห็นใครๆก็พูดถึง 555 อารมณ์ที่เที่ยวกลางคืนของนักเดินทางฟูลมูนปาร์ตี้อะไรประมาณนี้ มีกองไฟในร้าน มีเกมให้เล่นกัน และที่สำคัญมี free drink เป็นวอดการ์ลาว อร่อยดี 555
วันที่สี่
***ข้อควรรู้
-ที่ลาวเวลาซื้อของหรือทำอะไรเค้าจะคิดตังค์ไม่ค่อยถูกคือเราจะเสียเปรียบเพราะฉะนั้นอย่าจ่ายอย่างเดียวนะจ้ะคิดดูดีๆอีกรอบด้วยเพราะเค้าคิดให้เราผิดทุกรอบ และเราก็เถียงทุกรอบ 555 -ที่ลาวของแพงมากข้าว ขนม บลาๆ หอบไปเองได้จะดีมาก 555
-วังเวียงเป็นเมืองที่ค่อนข้างเหมาะกับคนชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ไปเป็นกลุ่มน่าจะสนุกสุด
-วังเวียงมีอปป้าเกาหลีเยอะมากกกฝรั่งก็เยอะมากเช่นกัน อิอิ
***สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ (ประหยัดสุดแล้วนะ TT) -ค่ารถขาไป 320 + ค่ารถขากลับ 360 =680 บาท -ค่าบัตร one way ticket ไป-กลับ 5+50=55 บาท -ค่าห้องพัก 1200 แต่เราไปสองคน ตกคนละ 600 บาท -ค่าเช่ามอไซด์ 540 2 วัน ตกคนละ 270 บาท
-ค่าเข้าที่ท่องเที่ยว/สถานที่ต่างๆ ประมาณคนละ 400 บาท (แล้วแต่ว่าไปหลายที่มั้ย แต่ทุกที่เสียตังค์เกือบหมด)
-ค่าของกินประมาณคนละ 1500 บาท
-ค่าจิปาถะ (เติมน้ำมันรถ/ซื้อซิมการ์ด/อุปกรณ์เล่นน้ำ) ประมาณ 500 บาท
________รวมแล้วประมาณคนละ 4000 บาทจ้า
***ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ไม่รู้ว่าจะเป็นประโยชน์มั้ยเหมือนมาบ่นให้ฟัง 555***
CREDIT : Pakjira Phakam