without you trip
สวัสดีค่าาา เราจะมารีวิวประสบการณ์การไปทริปที่เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน กับเพื่อนอีก 6 คน จุดหมายเราคือ อ.เชียงดาว ณ บ้านโฮมสเตย์แม่แมะ โดยเราจะนั่งรถไฟค่ะ ไปกันโลดด
– ขออนุญาติใช้ภาษาวิบัติทางเสียงและภาษาพูดนะคะ –
[15 ชม. ระหว่างอยู่บนเชียงใหม่] วันที่ 25 ตุลาคม 2559 เวลา 12.30 น. ก่อนจะไปเราได้ทำการจองที่พักและจองตั๋วรถไฟ โดยได้ขบวนที่ 109 เป็นรถไฟพัดลมธรรมดาชั้นสองค่ะ ที่พักที่จะไปมีคุณลุงใจดีชื่อลุงวงษ์ ก่อนจะไปก็ทำการโอนค่าที่พัก โดยโอนมัดจำก่อน 1,500 ที่พักที่นี่เขาจะคิดหัวละ 750 แต่คุณลุงคิดให้เป็น 650 บาท :- ) บรรยากาศระหว่างเดินทางบนรถไฟ . . .
เพื่อนติดเกม นอนดึกไปหน่อย . . .
ถ้าป้าเป็นคนดีหนังเรื่องนี้ก็คงไม่มันส์เดะ ป้าเป็นแค่วายร้ายยยยย [ เพลงวายร้าย – URBOY TJ ] เรื่องมีอยู่ว่า. . . กลุ่มของเราเป็นเป้าหมายที่คนเดินเร่ขายของกินเดินมาขายเยอะมาก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมขายตรงเราบ่อย 55555 แล้วมีป้าขายผัดไทเดินมา บอกว่า ” ผัดไทไหมหนู ป้าจะลงแล้วลูก ” ก็จัดไปด้วยความหิวและวาดฝันภาพผัดไทไว้สูงมาก อาจจะเพราะไม่เคยเดินทางด้วยรถไฟนานแล้วก็ไม่ทราบว่าอาหารเป็นยังไงบ้าง พอเปิดกล่องมา
30 บาทหรอเนี่ยยยยย? ถึงกับฮาขำกันอยู่นาน สักพักได้ยินเสียงที่คุ้นเคย
” มาม่าโอวิลตินร้อนๆไหมค้าาาาา ” ป้าคนเดิมเพิ่มเติมคือเปลี่ยนของขาย ป้านี่วายร้ายจริงๆ ._.
26 ตุลาคม 2559 เวลา 4.30 น. หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนค่ะ นั่งๆหลับๆตื่นๆนอนๆแล้วความจริงก็มาถึงงงง เราถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่กันแล้วเจ้าาาา ด้วยเวลา 15 ชม. ไม่เลทแบบที่คิดไว้ แต่ผิดแผนตรงที่คิดว่าจะถึง 6 โมงเช้าเนี่ยแหละค่ะ พอถึงก็เลยจัดแจงล้างหน้าแปรงฟันซะหน่อย หน้าดำเป็นถ่านเลยค่ะ อ้อออ สิ่งที่อยากให้ผู้หญิงเตรียมเพื่อความสะดวกสบาย แนะนำว่า ซื้อทิชชู่เปียกกับทิชชู่ปกติอย่างละสองห่อจะช่วยได้ดีมากเลยเวลาเข้าห้องน้ำบนรถไฟ ส่วนคนไหนที่ล้างหน้าไม่ใช้โฟมล้างหน้าเนี่ย แนะนำว่าซื้อไว้สักอันเถอะ เพราะเพื่อนเราเป็นผู้ชายไม่ยอมใช้โฟมล้างหน้า พอไปล้างล้างน้ำหน้าก็ยังดำ
สุดท้ายเลยต้องซื้อโฟมล้างหน้าอยู่ดีค่ะ5555 อย่าลืมเช็ดจมูกด้วยนะ แล้วคุณจะตกใจ!
เราหาทางไปขนส่งช้างเผือก โดยตามปกติเขาก็จะนั่งรถสองแถวแดงกัน ก็ตามนั้นแหละค่ะ แต่เจ้าแรกคิด 40 บาททีนี้ตอนนั้นยังเล่นตัว เลยเดินวนๆกะจะไปเซเว่น แล้วก็เจอป้าใจดี พาไปในราคา 25 บาทค่าาา พอไปถึงขนส่ง ปรากฏว่าผิดแผนรอบสองค่ะ รถสองแถวที่จะไปเชียงดาว
ออกเวลาหกโมงกว่าๆ เราเลยต้องนั่งรถทัวร์กันไป ก็รอเวลาขึ้นรถ แล้วก็สลบค่ะ ไม่ได้เก็บภาพเลย..
ระหว่างเดินทางไปแม่แมะ
แล้วก็ถึงเวลาที่จะเดินทางไปแม่แมะค่ะ พวกเรา 7 คนลุยขึ้นหลังกระบะ นั่งขึ้นไปที่โฮมสเตย์แม่แมะ ตื่นเต้นมากกกก นานๆจะเที่ยวที5555 ถ่ายรูปถ่ายภูเขา บรรยากาศสวยมากค่ะ พอขึ้นไปเรื่อยๆสัญญาณเน็ตจะหาย AISเท่านั้นที่จะอยู่กับคุณณณณ Slow Life ไปเลยค่ะ อยากจะเล่นเน็ตอยากจะแชร์รูปก็ทำไม่ได้5555 แต่จะบอกว่าถ้าพอไปอยู่ที่นู่นแล้วไม่มีอินเทอร์เน็ตก็อยู่ได้ มีเสียงน้ำตกตลอดเวลา อากาศดีมาก ไม่ต้องเปิดพัดลมไม่ต้องมีแอร์ จิบเบียร์ไม่ต้องมีน้ำแข็ง ฟินสุดๆไปเลยค่าาาาา ^0^ อาหารการกินก็ดีค่ะ แม่ๆป้าๆทำอาหารให้ วัตถุดิบทุกอย่างที่นู่นเขาปลูกกันเองทั้งหมดเลยค่ะ
เจ้าซึบะ :- )
ค่าที่พักคืนละ 650 บาท มีมื้ออาหารให้ 2 มื้อค่ะ ส่วนนี่คือบรรยากาศที่ในพักของเรา เราได้ที่พักชื่อ ไอยเรศ 1 , 2
ป้อหลวงวงษ์ของเราเองงงงง :- )
ส่วนใหญ่จะเจอชาวบ้านสะพายไอแบบนี้ เราเรียกไม่ถูก5555 แต่เขาจะเก็บผลไม้เก็บผัก แล้วก็มาไว้ที่บ้านต้นไม้(แม่แมะ) ให้ป้าๆแม่ๆทำกับข้าวให้นักท่องเที่ยวที่มาพักทานกัน เราไปนั่งคุยกับป้าๆเขาบอกอาชีพหลักๆเขาคือเก็บใบชา อาชีพเสริมคือเปิดที่ท่องเที่ยวนี่แหละ ที่หมู่บ้านแม่แมะมีคนอาศัยอยู่ประมาณ 500 คน มีบ้านหลังคาเรือนทั้งหมดประมาณ 100 หลัง
27 ตุลาคม 2559 เวลา 8.00 น. หลังจากเมื่อคืนที่จิบเบียร์ก็นอนหลับคนแรกเลยเจ้าาาา หลับสบายและตื่นสายสุดด้วยเจ้าาา มื้อเช้าเป็นข้าวต้ม น่ากินมากกกก มีข้าวโพดในนั้นด้วยเราไม่เคยกินข้าวต้มแบบนี้ 5555 แต่ที่ชอบคือกระเทียมเจียว หู้ยยยยย พริกน้ำปลาา หูยยยอีก อร่อยอะ.__.
หลังจากนั้นก็เดินทางออกจากที่พักมาแช่น้ำพุร้อนออนเซ็นเหม็นกลิ่นไข่ต้มสุดๆ -.-อื้อหือ เราไม่ได้ลงเพราะเป็นประจำเดือน แง้ แต่ส้มตำที่นั่นอร่อยมากเลยจ้าาาาาา อย่าลืมไปกินกันนะคะ ตรงนี้ไม่มีรูปแล้ว หิวโหย ลืมถ่ายอีกแล้ว -.- แล้วคุณลุงวงษ์ก็มาส่งเราที่ท่ารถเชียงดาว เราก็ขึ้นรถทัวร์ไปลงรถต่อเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพด้วยรถไฟเช่นเดิมเจ้า – -‘
โดยตกลงกันว่าจะนั่งรถรอบ 15.30 น. และถึง 5.30 น. แต่ก็เลทนะเจ้าาาาาา เลยถึงเกือบ 7 โมง
. .
.
ความรู้สึกหลังจากไปทริปนี้เราคิดว่าเหนื่อยกับการนั่งรถไฟมาก แต่ก็ชอบบรรยากาศรอบๆเช่นกัน ถ้าเจอสิ่งแวดล้อมรอบตัวดีก็จะดีต่อใจมากมาย55555 จริงๆถ้าไม่ติดธุระก็อยากจะอยู่แม่แมะต่ออีกสักคืน คุ้มจริงๆนะ 650 บาท อ้อ ! ตอนไปเล่นน้ำตกระมัดระวังอย่านั่งไม่ดูที่ดูทางนะคะเพราะเพื่อนเราโดนบุ้งร่าน (มันชื่องี้) แต่ชาวบ้านเรียกไอ้หาญ มันทิ่มก้นเป็นรอยตัวมันเลย ยึ้ยยย ถ้าใครโดน
แนะนำทายาหม่องแล้วก็โรยแป้งทับไปเลย อย่าไปแกะเกาเท่านี้ก็หายค่ะ คุณลุงวงษ์โดนบ่อยท่านบอกมา :- )
บรรยากาศระหว่างกลับกทม. . . . เรารักนางงงงงงงงงงงงงงงงง
สุดท้ายเราอยากบอกว่า เราได้มาเชียงใหม่แล้วนะ
ถึงจะไม่ได้เป็นไปตามคำที่บอกว่า ” ไว้นั่งรถไฟไปเชียงใหม่ด้วยกันนะ “ . . .
สรุปค่าเสียหาย ค่าตั๋วรถไฟ 391 ฿ ค่าวินมอไซไปจองตั๋วรถไฟ 25 ฿ ค่ารถมาท่ารถช้างเผือก 25 ฿ ค่ารถทัวร์ 40 ฿ ค่าเข้าถ้ำ 60 ฿ ค่าไกด์ 30 ฿ ค่าที่พัก 650 ฿ ค่ารถลุง 120 ฿ ค่าส้มตำ 40 ฿ ค่ารถเมล์ไปขึ้นรถสองแถว 40 ฿ ค่ารถสองแถว 20 ฿ ค่ารถไฟ 271 ฿ ค่าของฝาก 21 ฿ ค่ากินส่วนตัว 250 ฿ (โดนเต็มๆบนรถไฟจ้า)
รวมเป็นเงิน 1983 ฿
ขอบคุณที่มาฟังข้าเจ้าเวินเว้อเด้อออออออ หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยจ้า
Credit : PANTIP สมาชิกหมายเลข 3507488
FACEBOOK : Taulek Primpray